宁为玉碎,不为瓦全。
《北齐书 • 元景安传》
Nìng wéi yù suì , bù wéi wǎ quán.
ยอมเป็นหยกที่แตกละเอียด
ก็ไม่ขอเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ครบชิ้น
(บันทึกเป่ยฉี, ตำนานเอวี๋ยนจิ่งอาน)
ความเป็นมา
ค.ศ.550 ฮ่องเต้เซี่ยวจิ้งตี้ (孝静帝) แห่งตงเว่ย (东魏) ถูกบังคับให้สละบัลลังก์แก่กาวหยาง (高洋) ผู้ซึ่งเป็นอัครมหาเสนาบดีเผด็จการ จากนั้นตงเว่ยก็ถูกแทนด้วยเป่ยฉี (北齐) กาวหยางจิตใจโหดเหี้ยม ปีถัดมาได้ปลิดชีวิตเซี่ยวจิ้งตี้และพระโอรสทั้ง 3 เพื่อเป็นการขุดรากถอนโคน
หลังจากกาวหยางครองราชย์ได้ 10 ปี ได้เกิดสุริยุปราคาขึ้นในเดือน 6 เขาหวั่นว่าจะเป็นลางบอกว่าตัวเองจะครองบัลลังก์ได้ไม่นาน จึงรับสั่งให้คนสนิทที่ไว้ใจมาให้คำปรึกษา “ในช่วงปลายยุคซีฮ่าน อว๋างหม่าง (王莽) ได้ปล้นบัลลังก์ตระกูลหลิว ทำไมหลิวซิ่ว-กวางอู่ตี้(刘秀-光武帝) สามารถกอบกู้บังลังก์คืนมาได้” คนสนิทให้เหตุผลไม่ได้ เลยตอบไปแบบขอไปทีว่า “เรื่องนี้ต้องโทษอว๋างหม่างเองที่ตอนนั้นไม่ได้ฆ่าล้างตระกูลหลิวให้หมด”
กาวหยางผู้ซึ่งใจคออำมหิตจึงมีรับสั่งให้ประหารเครือญาติที่เป็นเชื้อพระวงศ์ฮ่องเต้องค์ก่อน ฆ่าล้างโคตรไป 44 ตระกูล รวม 700 กว่าชีวิต ไม่เว้นแม้แต่เด็กทารก
เมื่อข่าวการฆ่าล้างโคตรกระจายออกไป เชื้อพระวงศ์ที่เป็นเครือญาติห่างๆจึงรีบปรึกษาหารือกันเพื่อหาทางออกให้กับชีวิตตัวเอง เอวี๋ยนจิ่งอาน (元景安) ผู้เป็นนายอำเภอเสนอแนวคิดว่า ต้องขอร้องกาวหยางอนุญาตให้พวกเขาเปลี่ยนนามสกุล เปลี่ยนจากเดิมทีที่แซ่เอวี๋ยนไปแซ่กาวแทน
ลูกพี่ลูกน้องของเอวี๋ยนจิ่งอาน ซึ่งมีนามว่าเอวี๋ยนจิ่งฮ่าว (元景皓) ฟังแล้วโกรธกริ้วเป็นอย่างยิ่ง จึงพูดขึ้นมาว่า “岂得弃本宗,逐他姓,大丈夫宁可玉碎,不能瓦全。จะให้ทิ้งตระกูลเดิมแล้วไปใช้แซ่คนอื่นได้อย่างไร ลูกผู้ชายยอมเป็นหยกที่แตกละเอียด ก็ไม่ขอเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ครบชิ้น ข้ายอมตายเพื่อรักษาเกียรติยศศักดิ์ศรีไว้ แต่ก็ไม่ขอก้มหน้าอยู่ต่ออย่างไรศักดิ์ศรี “
เพื่อเอาชีวิตรอด เอวี๋ยนจิ่งอานจึงได้เอาคำพูดของเอวี๋ยนจิ่งฮ่าวไปกราบทูลกาวหยาง กาวหยางจึงสั่งให้จับตัวเอวี๋ยนจิ่งฮ่าวมาฆ่าทิ้งอย่างสะใจ ส่วนเอวี๋ยนจิ่งอานมีคุณงามความดีในการเอาความลับไปบอกแก่กาวหยาง ไม่เพียงแต่รอดชีวิตไป แถมยังได้เลื่อนยศด้วย
แต่การฆ่าล้างโคตรที่โหดร้าย ก็ไม่สามารถสร้างความมั่นคงให้กับการปกครองของกาวหยางได้ 3 เดือนผ่านไป กาวหยางล้มป่วยและเสียชีวิตลง
18 ปีถัดมา การปกครองของเป่ยฉีก็ได้ล่มสลายลง